รีวิวหนัง Disney จากนิทานชื่อดังของดิสนีย์ 1 ใน 7 เจ้าหญิงดิสนีย์ ที่กำลังเข้าดิสนีย์ พลัส (disney+) ให้เราได้ชมกันแล้วในปิดเทอมนี้ เวอร์ชั่นนี้ได้สาวสวย ขวัญใจเด็ก ๆ และหนุ่ม ๆ ทั่วโลก อย่าง Emma Watson (เอ็มม่า วัตสัน) ในบทของเจ้าหญิงเบล ร่วมกับ Dan Stevens (แดน สตีเว่นส์) เป็น เจ้าชายอสูร ในภาพยนตร์รีเมคจากเวอร์ชั่นการ์ตูนของดิสนีย์ปี 1991 ที่เคยได้รับรางวัล Best Motion Picture จากลูกโลกทองคำไปแล้ว ครั้งนี้ใครที่ฟังซาวน์แทรค จะได้รับอรรถรสของสำเนียงบริติสแบบจริงจัง ผู้ดีเมืองอังกฤษ ที่เหมาะกับเนื้อเรื่อง และไม่ได้มีการดัดแปลงเปลี่ยนอะไรไปต่างจากนิยาย ความสวยงามและความรักที่ไม่ผิดคาด แถมเอ็มม่า วัตสัน ยังสวยสมเป็นเจ้าหญิงเบลเอามาก ๆ เอ็มม่ากับเบลล์ในหนังเหมือนกันมาก จนคิดไม่ออกว่า ถ้านางไม่รับเล่นเรื่องนี้ มันจะกลายเป็นใครไปได้ ด้วยบทเจ้าหญิงที่เป็นเจ้าหญิงจริง ๆ ต้องเอาคนที่สวยเหมือนเจ้าหญิง ทั้งบุคลิกและความเป็นผู้ดีมาแสดง ทำให้การเป็นเจ้าหญิงเบลของเอ็มม่า เป็นธรรมชาติเอามาก ๆ เราคุ้นเคยกับเอ็มม่าตัวจริงว่าเป็นคนที่มีนิสัยเหมือนเบล ตัวละครหลัก ‘เบล’ ก็มีลักษณะนิสัยเป็นคนรักการเรียน เป็นหนอนหนังสือ น่ารัก จิตใจดี และเป็นคนที่เคารพในสิทธิสตรีมากๆ คนหนึ่งในโลก
สำหรับภาพยนต์ดิสนีย์เรื่องนี้ เป็นผลงานกำกับโดย Bill Condon ผู้กำกับภาพยนต์เรื่อง Twilight: Breaking Dawn ภาค 1 และ 2 ครั้งนี้ออกขายโดยเจ้าของลิขสิทธิ์เจ้าหญิงเบลที่เป็นที่จดจำอย่าง ดิสนีย์ มีให้ชมในดิสนีย์ พลัส (disney+) แล้ว เรื่องของ CG ไม่ต้องหวั่นเลย สำหรับผู้ม ขอให้วางใจ ดิสนีย์ ยังดีเหมือนเดิมคงเส้นคงวา เขียนบทภาพยนตร์ครั้งนี้โดย Stephen Chbosky และ Evan Spiliotopoulos ที่หลายคนคงได้ดูไปแล้วในโรงภาพยนต์เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา
รีวิวหนัง Beauty and the Beast เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นการ์ตูน
รีวิว หนังเรื่อง Beauty and the Beast เมื่อเทียบกับเวอร์ชั่นการ์ตูนแล้ว ไม่ต่างกัน และยังจัดทำและเผยแพร่โดย ดิสนีย์เหมือนกัน ที่ทุกท่านสามารถติดตามได้ทุกเวอร์ชั่น ที่ ในดิสนีย์ พลัส (disney+) หลังจากดู Trailer แล้ว จะเห็นว่า เวอร์ชั่นภาพยนต์จากดิสนีย์เอง ก็มีหลาย ๆ ฉากที่เลียนแบบเวอร์ชั่นการ์ตูนมาเลย ทำให้หลายคนเฝ้ารอว่าหนังจะทำออกมาสุดแค่ไหน ด้วยบทที่รู้อยู่แล้วว่าจะเป็นอย่างไร แต่ยังไม่เคยได้เห็นมันในลักษณะของภาพ 3 มิติ หรือมิติที่สมจริงมากที่สุด นอกจากภาพวาด ที่ออกมาให้ได้เห็นกันมาหลายต่อหลายปี หลังจากได้ชมแล้วก็บอกได้ว่ามีหลายฉากที่คงไว้เหมือนในการ์ตูน แต่ภาพจำ หลาย ๆ คนอาจจะติดภาพของการ์ตูนมากกว่า ด้วยตัวภาพยนต์เองไม่ได้สร้างมาฉีก เหมือนกับเรื่องอื่น ๆ ที่ชี้ให้เห็นอีกมุมมองหนึ่ง เช่น เจ้าในคอหอย กับมาเลฟิเซน หรือภาคของสโนว์ไวท์ที่หลายคนเฝ้ามองเจ้าหญิงหิมะในอีกมุมมองหนึ่ง เป็นต้น
สำหรับเจ้าหญิงเบล ฉากต่าง ๆ ที่เราจำได้ตอนเด็ก อาจไม่ได้เห็นจากเวอร์ชั่นหนัง อย่างเช่น ฉากเต้นรำที่อลังการในการ์ตูน พอดูในเวอร์ชั่นหนังก็อาจจะไม่ได้เป็นไฮไลต์หรือว้าวมากเหมือนตอนที่เราเห็นในการ์ตูน หรืออย่างฉากแก๊สตองกินไข่ ก็ไม่มีให้เห็น เป็นต้น แต่ในเวอร์ จะรู้ว่าแม่ของเบลล์เป็นใคร ทำไมเบลล์ถึงอาศัยอยู่กับพ่อแค่สองคน ในส่วนของฉากเต้นรำ รีวิว หนัง เรื่องนี้บอกได้เลยว่า จะได้เห็นแกในไทย และก็ต้องมีเพลงประจำเรื่องนี้ ที่ถูกแปลมาเป็นไทยด้วย แต่น่าเสียดาย ที่มันไม่ได้อลังการงานสร้างหรือเป็นกระแสเหมือนกับเรื่อง เจ้าหญิงหิมะ อย่าง Frozen ทั้งเพลงของ Frozen และอันนา แต่ทั้งสองเวอร์ชั่นก็มีความน่าดูในคนละแบบ รีวิว หนังเรื่องนี้ ส่วนมาก ก็แนะนำให้ดูกันแบบไม่ต้องมีอะไรกั้น เอ็มม่า วัตสัน เอาคะแนนความสวยไป แปดล้านคะแนนแค่ดูเอ็มม่าก็คุ้มแล้ว แถมเสียงร้องของเอ็มม่าก็น่ารักมาก ๆ ที่หลายคนยังคงจำความสวัสดีแฮรี่อยู่เลย ในแบบของภาพยนต์มันมีเส้นเรื่องที่เพิ่มเข้ามาเยอะอยู่พอสมควร เบื้องหลังของตัวละครหลาย ๆ ตัวก็เพิ่มขึ้นมา คนดูจะรู้อีกหลายเรื่องมาก ทำให้เรื่องราวมันกลมขึ้น ทั้งที่มาของเจ้าชายว่าทำไมต้องเป็นอสูรและอะไรทำให้เจ้าชายในอดีตนิสัยไม่ดี และกลายเป็นอสูรที่จริง ๆ แล้ว อาจจะเหมือนเด็กคนหนึ่งที่ต้องการความรักความอบอุ่น ไม่ได้อยากที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว หรือกลายเป็นอสูรร้าย เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้กับตัวเอง มีที่มาที่ไปมากขึ้น และยังพูดถึงนางฟ้าที่เสกให้เจ้าชายเป็นอสูรมากกว่าเดิมอีกด้วย ซึ่งถ้าดูจากเพื่อนเราหลาย ๆ คนที่ชอบดิสนีย์มาก ฉากของอสูรที่ดูน่าสงสารและพาให้อินเลิฟได้ จริง ๆ มันก็นิยายดี ๆ เรื่องหนึ่ง ที่ไม่อาจจะเป็นแค่นิยาย แต่ดันสวยงามขึ้นมาเป็นภาพ ทั้งเหล่าตัวละครที่แต่ง CG ขึ้นมาแบบคุณจะไม่ผิดหวัง ข้าวของเครื่องใช้ในคฤหาษ พี่กาน้ำ พี่เชิงเทียน ดอกไม้ที่ร่วงโรย เบื้องหลังของการถูกสาปเป็นอสูร และการที่เป็นเจ้าหญิงมาชุปชีวิต แน่นอนว่าฉากที่เจ้าชายออกมา ก็หล่อแบบไม่ผิดหวังเลยด้วยเช่นกัน ในเรื่องนี้ เจ้าชาย (อสูร) จะมีความสุขุมนุ่มลึกกว่าในการ์ตูนที่จะออกเด๋อๆ น่ารัก ซึ่งจะเป็นตัวร้ายที่ออกเด๋อ ๆ แทน เหมือนกับในการ์ตูน ซึ่งดูให้ความรู้สึกว่า การ์ตูนมีชีวิต ส่วนเจ้าชายจะมีความนุ่ม สุขุม ดราม่า มีความเป็นมนุษย์ และโลกความจริงมากกว่า นั่นอาจจะทำให้กลายเป็นข้อด้อยของหนังเรื่องนี้ไปได้ ที่ทำให้ตัวละครนี้ไม่ได้โดดเด่นเหมือนกับในการ์ตูน แต่ออกแนวละคร ๆ นิดหน่อย รีวิวหนัง Disney ก็ยังคงความเป็นดิสนีย์ที่ตัวร้ายนี่แหละ แก๊สตอง ที่เล่นได้ดีมากๆ มีความกวน หลงตัวเอง และบ้าบอมากกกกกก ยิ่งกับลูกสมุน ‘เลอฟู’ ที่ในเวอร์ชั่นนี้ออกจะดูเกย์ๆ ก็เล่นได้น่ารัก เข้ากันดี เด็กดูต้องมีตลกกันอยู่แล้ว ความเพลงไม่ต้องห่วง ดีสนีย์เลย
บทสรุปของโฉมงาม กับเจ้าชายอสูร เวอร์ชั่นภาพยนต์ โดยรีวิว
โดยรวมๆ แล้วก็ถือว่าดิสนีย์พยามสร้างเส้นเรื่องในตัวละครมากขึ้น เพื่อให้หนังมีมิติกว่าเดิม คนที่ชอบเวอร์ชั่นการ์ตูนมาก และตัดสินใจอยู่ว่าจะไปดูดีไหม ก็ขอบอกว่าไปดูเถอะไม่ต้องลังเล disney ทำทั้ง 2 เวอร์ชั่น มีความโดดเด่นที่ต่างกัน ติดตามที่ดิสนีย์ พลัส ได้ทั้ง 2 เวอร์ชั่น ซึ่งจะต่างกันตรงที่เวอร์ชั่นของการเป็นการ์ตูนก็จะมีความเป็นต้นฉบับสูง ส่วนหนังก็มีการอุดเรื่องราวเบื้องหลังให้น่าสนใจมากขึ้น ในเวอร์ชั่นของภาพยนต์จะได้เห็น เอ็มม่า วัตสัน ในบทของเจ้าหญิงเบลที่ดีมาก ดีจนแอบกลบนักแสดงคนอื่น ๆ ไปเลย เพลงและฉากมิวสิคัลต่างๆ น่ารักดี ดูเพลินและแอบยิ้มตามไปได้เรื่อย ๆ ตอนที่ดูในโรง ตอนที่พระเอกออกมาแล้วเป็นอสูรเด็ก ๆ ก็มีเสีงอื้ออ้า เรียกว่าน่ากลัวใช้ได้ไม่ดูถูกคนดู และน่ากลัวจนกลัวตามเบลไปด้วยเลย พื้นเพของเบลที่ได้แทรกเข้ามาก็ทำให้แฟนนิยายได้ฟูลฟิลเติมเต็มกันได้เหมือนกัน ที่มากกว่านิยาย ไม่ได้มากแบบข้าง ๆ คู ๆ และที่สำคัญ หากใครรอการถอดรูปของเจ้าชายขี่ม้าขว แน่นอนว่า ได้เลย ซิกแน่น ตามแบบพิมนิยม จนรู้สึกเสียดายว่า ได้ดูพระเอกของเราแค่เพียงนิดเดียว
รีวิวหนังไม่เพียงเท่านี้ ถ้าหนังดิสนีย์ต้องขอรีวิวในเรื่องของเพลงด้วย เราได้ยินกันอยู่แล้วว่า เอ็มม่าเธอมีเพียงที่สดใส แต่ไม่คิดว่าจะร้องเพลงได้ไพเราะขนาดนี้ เพลงที่เราได้ยินกันในการดูการ์ตูนได้ขับร้องโดยเอ็มม่า จึงได้รู้ว่า เบื้องหลังการร้องเพลงนี้ เธอได้ไปเรียนร้องเพลงมาด้วย จึงทำให้ทุกการแสดงออกมาเพอร์เฟค ด้านรอยยิ้มและการแสดงออกของเธอ จะทำให้คุณลืมการเป็นเฮอไบโอนี่ได้อย่างชัดเจน เบลในเวอร์ชั่นของเอ็มม่า ทำได้ออกมา เรื่องชุดแต่งกาย ได้ทำออกมาได้เหมาะกับเอ็มม่ามาก และมีความคล้ายกับการ์ตูนมาก มีแตกต่างเล็กน้อย อาจจะเพื่อเข้ากับมูดและนักแสดง ดูแล้วพล็อตเรื่องก็แทบจะเป็นนิยายไทยเลยด้วยซ้ำ หากจะยกให้เป็นนิยายรักอมตะต้นแบบ ก็ไม่ได้รูสึกติดใจอะไร ด้วยความที่เบลเป็นเจ้าหญิงที่ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากในวัง จึงดูบ้านกว่าเจ้าหญิงดิสย์องค์อื่น ๆ จึงไม่ได้ผิดหวังอะไรมาก แต่เอ็มม่าได้ถ่ายทอดออกมาได้ดีกมากกว่าที่คิดด้วยซ้ำไป มองแล้วสบายตามาก ชุดของเบลล์เป็นชุดสีน้ำเงินมีความคล้ายกับชุดในเวอร์ชั่นของการ์ตูนในแต่ภาพยนตร์จะมีลวดลายมากกว่าเสียหน่อย เวอร์ชั่นการ์ตูนเบลล์จะมีโบว์ผูกผมสีฟ้าอันใหญ่แต่ในภาพยนตร์จะเป็นโบว์เล็ก ๆ เล็กจนแทบไม่ได้สังเกตเลยเท่านั้น ด้วยรอบยิ้มที่อบอุ่น ทำให้ไม่แปลกใจได้เลยว่า ทำไมเจ้าชายอสูรจึงรู้สึกใจอ่อนกับสิ่งที่เบลพร้อมมอบให้ เมื่อมองว่ามันคือนิยาย มันก็คือนิยายและพร้อมจะรับมันได้กับการมองกันที่เนื้อใน และแก้คำสาปแม้ว่า อสูรจะน่าเกลียด มีเกล็ดเล็ก ๆ ให้ได้ขำ ที่ว่า หากมันเป็นความจริงมันก็ครจะเป็นอย่างนี้ ๆ อย่างไร
ด้านการแสดงของตัวพระกันบ้าง ตัวบีสท์ เสียดายความหล่อของพี่แดนมากค่ะได้โชว์หน้าน้อยกว่าแกสตองเท่าตัวเชียว และมันดีมากแม้ว่าจะอยู่ภายใต้หน้าอสูร หรือการพลางร่างที่น่าเกลียด เรามองเห็นความประหม่าในความรัก การเขินยาย และความโหดร้ายจากปมหลัง ทั้งที่มาของความดราม่า ที่ไม่ต้องใช้สีหน้าเยอะ และการแสดงไม่ล้นไม่ขาด ลงตัวอย่างดี การได้เปิดหน้ามาโชว์นิดนึง เรียกว่าเป็นฟินนาเร่ของหนังเลยก็ว่าได้ ความน่ารักกุ๊กกิ๊กนี้ มันไม่ทำให้ดุดันเท่าไหร่ แต่รีวิวหนัง ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดี รีวิว หนัง เรื่องนี้ ดูชิว ๆ ได้ ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ ทุกเพศทุกวัย รีวิวหนัง Disney ให้ได้รับชมกันใน ดิสนีย์ พลัส อย่าลืมสมัครสมาชิกกันก่อน การ์ตูนดิสนีย์ ทั้งเรื่องใหม่ เรื่องเก่า ที่ disney+ ใครใช้ AIS สามารถดูโปร ฯ ดี ๆ ให้กับตัวเองได้เลย ความคุ้มค่าของความบันเทิงที่รอคุณอยู่แล้ว ให้คุณดูอย่างสะดวกสบายอยู่ได้ที่บ้านของคุณ ไม่ต้องเสี่ยงโควิด แม้ว่าจะเป็นโรคประจำถิ่นแล้ว แต่ก็ยังอันตราย และยังติดกันง่ายอยู่ในโรงหนังอีกต่างหาก ไม่ต้องเอาตัวเองไปเสี่ยง และไม่ต้องเสียเงินซื้อตั๋วทีละเรื่อง เพราซื้อโปร ฯ ดี ๆ ดูได้ทั้งหมด เรื่องใหม่ ๆ อีกมากมายที่ดูได้จาก disney+ ได้เลย บางเรื่องไม่ได้มีให้ดูในโรงภาพยนต์
รับชมตัวอย่างหนัง Disney : Beauty and the Beast
ขอขอบคุณวีดีโอจาก Youtube.com
ติดตามเว็บรีวิวหนัง สามารถรับชมและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิวหนัง
ดูหนังออนไลน์ฟรีได้ที่ : ดูหนังออนไลน์
